บันทึกการเดินทาง 12 ธันวาคม 2556 กับการตะลุยเขาใหญ่
สำหรับผู้ที่รักการปั่นจักรยานนั้น ความฝันที่ท้าทายในการพิชิตอะไรสักอย่าง มันเป้นเรื่องปกติของคนหัวใจเสือทุกๆคน และผมเองก็มีอีกหนึ่งความฝันเล็กๆในการพิชิตความสูงของขุนเขาด้วยกำลังขาของตนเอง ซึ่งมีจักรยานคู่ใจพาเราไปให้ถึงปลายทาง
เริ่มด้วยต้องขอขอบคุณ คุณภรรยาที่ได้ชวนให้ไปเป็น พขร. ให้พาไปสัมมนาที่โรงแรม แคปปิตอล เจ แอท เขาใหญ่ ระหว่าง วันที่ 11-13 ธันวาคม 2556 โดยมีเวลาเตรียมตัวประมาณ สองสัปดาห์ ซึ่งได้ขออนุญาตลาพักผ่อนกับต้นสังกัดเรียบร้อย
การเตรียมตัวก็มีทั้งการฝึกปั่นทั่วไปและการซ่อมแซมจักรยานคู่ใจให้พร้อม และได้ขอคำแนะนำกับผู้ที่มีประสบการณ์ ว่าจะใช้จักรยานอะไรดีระหว่าง เสือหมอบ กับ เสือภูเขา ซึ่งท่านอาจารย์เจริญ ก็ได้แนะนำว่า น่าจะใช้เสือภูเขาก่อน ตกลงว่าใช้เจ้า PACO เสือภูเขา…ซึ่งต้องเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี้เยอะเลย.. เริ่มจากโซ่หมดสภาพ เปลี่ยนพร้อมเฟืองหลัง และกระโหลกลูกปืนก็มีปัญหา.. เปลี่ยนๆไป เสร็จทันขึ้นเขาพอดีเลย.หมดไปหลายพันเลย..จนอีกแล้วตู…
ออกเดินทางในวันที่ 11 ธ.ค.56 ไปสู่ปากช่อง โคราช.. โดยใช้แร็คยึดจักรยานท้ายรถยนต์ ไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจาก จักรยานมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ..ไปเร็วไม่ได้กลัวตกหลุม เดี๋ยวจะหล่น ซึ่งต่างจากขากลับ ถอดล้ออก เบาลงเยอะเลย..วิ่งได้สบายเลย.. สรุปว่า จักรยานผม หนักที่ล้อ..หุหุ..เดี๋ยวหาทางจัดการมันทีหลัง ออดเดินทาง ประมาณ สิบโมง กว่าๆ กินข้าวเที่ยง(บ่ายโมงที่ อ.ปราสาท) เดินทางต่อไปเข้าที่พักประมาณ หาโมงเย็น.. ระหว่างทางช่วงปากช่องไปเขาใหญ่ เส้นธนรัตน์ พบเห็นเสือปั่นยามเย็นเยอะเลย..ขาแรงแห่งเขาใหญ่.. สวนใหญ่เห็นปั่นเสือหมอบกัน.. น่าสนุกแล้วสิ.. แทบจะรอให้ถึงพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว…
วันขึ้นเขา.. เช้าวันที่ 12 ธ.ค.56 เป็นวันขึ้นเขา..เตรียมตัวตั้งแต่เช้า ดูแผนที่อย่างตั้งใจ.. เพราะว่าที่พัก อยู่ห่างจากทางหลักหลายกิโล.แล้วก็มีทางย่อยเยอะมากกลัวหลงทาง โรงแรมที่พักติดกับ โบนันซ่าเขาใหญ่ เริ่มปั่นออกมา ผ่านหน้าโบนันซ่า เลี้ยวขวาผ่านหน้า บริษัทฤทธา..ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างเซ็นทรัลอุบล..โอ..ม่ออฟฟิสอยู่กลางขุนเขา..ฟินผุดๆ.. ตัดออกไปถนนธนรัตน์..ราวๆเก้าโมงกว่าปั่นชมวิวไปเรื่อยๆจนถึงทางขึ้นเขาใหญ่… เจ้าหน้าที่ประจำทางเขาถาม “จะปั่นขึ้นเขาเหรอครับ” อ่า.. สี่สิบบาท ค่าบำรุง โอเคร.. ในสายตาเจ้าหน้าที่ยิ้มแบบมีกวนๆ.. คงคิด..”มึงจะขึ้นถึงไหนหว่า..อยากรู้”.. เลยออกตัวว่า “ปั่นครั้งแรกครับลองดู ถึงไหนก็ถึงนั้นแหละครับ” ว่าแล้ว ก็เตรียมไป แต่ก่อนจะขึ้นไป มีศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ด้านขวามือ..เลยเข้าไปสักการะขอพร “ขอให้ลูกขึ้นไปถึงเป้าหมายโดยปลอดภัยด้วยนะครับ”
หลังจากขอพรแล้วก็จัดแจงอุปกรณ์ เริ่มปั่นขึ้นเขา.. ระยะทางประมาณ 14 กิโล..ถึงเป้าหมาย จุดบริการนักท่องเที่ยว บนอุทยาน ไม่แน่ใจว่าเป้นจุดที่สูงที่สุดแล้วหรือยัง แต่เป้าของผมมีเพียงเท่านี้ในรอบนี้ครับ.. ระยะแรกทางตรงเรื่อยๆยังไม่เท่าไหร่ครับ ปั่นสบายๆ แต่ก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดของโลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอยู่ ผ่านไปสักพัก ช่วงที่เริ่งคดๆงอๆในแผนที่ มันก็เริ่มหินขึ้นเรื่อยๆ..
จากการอ่านรีวิวของคนที่เคยขึ้นแล้ว เค้าบอกว่าใช้รอบขาพอดีๆ..ในเกียร์ต่ำๆ ผมก็เริ่มซอยขาขึ้นไปเรื่อยๆแต่เนื่องจากยังไม่ชำนาญ หรือมันเป้นครั้งแรก ไม่มีโค๊ช ผมหยุดและพยายามจะเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำกว่
าเดิ่มในจานหน้า ผลที่ได้คือ เกียร์เข้าไม่ได้ครับ ปลดคริตแทบไม่ทัน ต้องหยุดรถลงเป้นครั้งแรกแล้ว และทีนี้ก็เริ่ม
เข้าใจแล้วว่าทำไมคนที่ปั่นหลายคนทำไมต้องจูงจักรยาน เนื่องจากว่า ความชันของถนน เราขึ้นคร่อมปั่นทันทีไม่ได้ ต้อง
มาแรงส่งที่พอเห
มาะ เราจึงจะปั่นต่อได้.. แล้ว
ผมก็เริ่มใช้จานเล็ก และก็จาน ห้า-หก สำหรับล้อหลัง..ปั่นต่อ มาหยุดตรงที่มันชันมากกว่าเดิม “แม่งจะชันไปไหนวะ”ตรงก่อนจะถึงจุด มุมหักศอกขวาแหละครับ ต้องหยุดอีกครั้ง..ขอตั้งหลักใหม่ก่อน.. เมื่อผ่านพ้นโค้งหักซอก ก็เป็นจุดชมวิว 300 เอาหยุดพัก สิครับ ชมวิว.. ใจคิดว่า น่าจะเป็นจุดที่สูงที่สุดแล้วละ ก็ น่าจะใช่นะ มองลงไปก็มีหุบเขาด้านล่างลึกมากๆ.. หายเหนื่อยแล้วไปต่อ ต่อจากจุดนี้แล้วเส้นทางค่อนข้างสบายๆครับ ผ่านด่านช้าง ก็กลัวช้างจะมา..ผ่านป้ายดงงูเห่า ก็กลัวงูเห่าจะมา.. ระหว่างปั่น ไม่ลืมชมข้างทาง มีกวางสองตัวออกมายืนมอง เป้นกวางสีทองๆ สวยดีครับ.. กำลังเพลิดเพินอยู่ดีๆ มี สิงเสือหมอบ ผ่านหลังมาด้วยความเร็ว “สวัสดีครับ” โหเร็วมาก นี้กำลังขึ้นเขานะครับท่าน ยังกดไปสบายๆเลย ผมก็ลองกดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ทันแหะ..โอ้..น้องสุดยอดมั๊กมาก ”อย่าให้ตามทันนะเฟ้ย” อิอิ. แล้วในที่สุดก็ถึงจุดหมาย..
ศูนย์บริการนักท่องเทียวซะที แบบ หมดสภาพนิดๆ…
สำเร็จแล้ว!!! ขึ้นเขาใหญ่ได้แล้ว ถ่ายรูปเสร็จ แวะไปทักทายน้องเสือหมอบ Bianchi impuso นี้เอง..กัยจานไข่ Roter อันเบาหวิว..ล้อ Campag น้ำหนังรวมๆไม่น่าจะเกิน 7 กิโล มีเพื่อนมาด้วยอีกคน แต่สภาพเพื่อน มันน่าสงสารมาก หมดสภาพกว่าผมอีก….
ใช้เวลาขึ้นประมาณชัวโมงกว่าๆ ก็ถึง
สอบถามน้องเค้าว่าขึ้นมากี่ครั้งแล้ว..น้องเคาบอกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ปั่นไปลงทางปราจีนบุรี ดูในแผนที่แล้ว ทางไปปราจีนบุรีต้องไปอีกไกลเลย โอ้..น้องเจ๋งวะ.. สักพัก ก็ไปหาทานอาหารเที่ยงเพื่อเตรียมลงเขา
อาหารเที่ยง ก๋วยเตี๋ยว กับโค้กคนหล่อ อิอิ น้ำอีกสองขวด กินหมดเกลี้ยงเลย สงสัยจะหมดแรง ระหว่างกิน น้องกวางก็เดินมาให้ชมถึงที่เลย..
ไม่เคยเจอในระยะใกล้ๆ เอ้า..ดูซะให้เต็มตาเลย..
นั่งพักให้หายเหนื่อยก็อยากลงแล้วสิ.. ก็เตรียมตัวลงแล้วครับถ่ายรูปกับชายแดงจังหวัดนครนายกกับโคราชซะหน่อ
เดินซิกแซก ไม่หยุดเลย.. เราต้องถอยกลับมาเป็นระยะๆ ที่ใช้คำว่าเรา เนื่องจากมีหลาย
ย เริ่มปั่นลงมาเรื่อยๆ จากจุดบริการนักท่องเที่ยว ปั่นอัดขึ้นเนินเล็กๆมาแล้วก็เจอ รถยนต์คันหนึ่งจอดกลางถนนแล้วก็มีผู้ชายลงรถมาแล้วใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายไปด้านหลัง
ไกลๆแล้วพู
ดว่า “ช้าง…” อ้า
ว เวรแล้วสิทีนี้ ทำไงดีละ เมื่อเสือเจอช้าง และช้างตัวนี้ เป้นช้างหนุ่ม.. งาช้ายังไม่ยาวมาก คงออกมาหาอาหารกินแล้วก็เดินไปหาดินโป่ง แต่
พฤติกรรมมันน่ากลัวตร
งที่ มันเดินเข้าใส่รถยน
ต์
คันที่อยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับผม..แต่ผมหนักสุดแล้ว เพราะเป็
นจักรยาน หนีไม่ออกแน่ๆเลย… เลยต้องย้อนกลับ
มาตั้งหลักที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รอให้ช้า
งผ่านไปก่อนถึงจะไปใหม่..ไม่อยากเป็นข่าว…ว่าเสือโดนช้างเหยียบ..ขำๆ.. รออยู่สักพักใหญ่ๆลอง
กลับไปอีกที พี่ช้างก็ผ่านไปแล้ว.. และผมก็ต้องเตรียมปั่นลงเขาตามลำพัง ขาลง มีเพียงเนินเดียวที่มันเป็นแอ่งกระทะ โดยขาขึ้นก็เจอแล้วทีหนึ่งแล้วต้องมาเจอขากลับอีกทีหนึ่ง
Comments Closed