คงไม่สายเกินไปที่จะเขียนเรื่อง”น้ำใจ”

        หลังจากที่ประเทศไทย พบกับมหาวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งโดนไปหลายจังหวัด หลายพื้นที่ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ทั้งบ้านเรือนที่พักอาศัย ไร่นา เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ซึ่งผมโชคดีที่ จังหวัดที่ผมอยู่โดนไม่มาก ที่มาเขียนวันนี้ ผม อยากพูดใน 2 เรื่อง คือ เรื่องคนที่ซ้ำเติมคนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว และเรื่องสิ่งดีๆ ที่เห็นในวิกฤตการครั้งนี้ (ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมถูกใจมาก)

 เรื่องที่ 1 คือ คนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวซ้ำเติมคนที่เดือดร้อน ก็ที่เห็นๆเลยคือ พวกขโมยของของคนน้ำถ่วม เค้าเดือดร้อนแล้วยังเอาของเค้าอีก แทนที่เค้าจะได้ออกมาบริเวณปลอดภัย อย่างสบายใจ กลายเป็นต้องกังวลห่วงทรัพย์สินอีก บางคนถึงกับไม่ยอมมาอยู่เฝ้าบ้าน ดูแล้วก็สลดใจ ไม่รู้จะสาปแช่งยังไง คงได้แต่เป็นกำลังใจ  อีกพวกคือพวกหาผลประโยชน์กับคนทุกข์ ค่าเรือ ค่าจ้าง ค่าอาหาร ค่าข้าวของเครื่องใช้ ที่พากันถีบตัวสูงขึ้นกว่าที่น่าจะเป็นมาก ก็รู้ว่าต้องหากำไลกันบ้างแต่ไม่น่าเอามากมายขนาดนี้ เค้าเดือดร้อนอยู่แล้ว เค้าจำเป็นต้องใช้ ก็เหมือนมัดมือชก ไม่รู้จะขูดรีดกันไปถึงใหน และเรื่องสุดท้ายที่ผมเห็นว่ามันไม่ถูดไม่ควร ในสถาณการณ์อย่างนี้ คือ เรื่องยุให้แตกความสามามัคคี บางคนบางกลุ่ม พยายามเหลือเกินในการยุให้เกิดความแตกแยก สร้างเรื่อง ก่อกระแส ให้คนทะเลาะกัน ตอนนี้ เป็นเวลาที่ต้องทำแบบนี้เหรอครับ บางคนก็ติดเป็นนิสัย มือไม่พายเอาเท้าราน้ำถ้าทำอะไรดีๆไม่ได้ ก็อย่าทำอะไรให้มันแย่ลงเลย ผู้อ่านว่าใหมครับ ตอนนี้เราไม่ควรแบ่งเค้าแบ่งเรา มีแต่พวกเราจะดีกว่า

                      ส่วนเรื่องสิ่งดีๆ ที่เห็นในวิกฤตการครั้งนี้ คือ สังคมไทยยังเป็นสังคมน่าอยู่ มากครับ หลายคนหลายฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน ช่วยเหลือกันและกัน ถึงขัดแย้งกันบ้างแต่สุดท้ายเราก็จะผ่านมันไปได้ ด้วยกัน ผมเห็น นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญา จากสมองจากฝีมือของคนไทย ซึ่งถ้าลองมาคิดเปรียบเทียบประเทศมหาอำนาจทางเทคโนโลยีประเทศหนึ่งที่เก็นเกาะน้ำก็ท่วมบ่อย แผ่นดินก็ไหวบ่อย บ้านเมืองเค้ามีเทคโนโลยีมากมายออกมา หรือว่าความคิดในการสร้างสรรค์ จะให้ได้ผลดีต้องเกิดแรงกระตุ้น แต่ผมอดภูมิใจไม่ได้ที่เกิดเป็นคนไทย มีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินหลายพระองค์ ทรงห่วงใยดูแล ทรงออกมาตรวจแย่มแบบไม่เป็นทางการก็มี ทราบซึ้งในพระมหากรุณาฑิคุณ  และก็ยังมีเรื่องที่ เห็นในภาพข่าว คนไทยเราช่วยเหลือกันดูแลกัน เป็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นแล้วเห็นได้ชัดเจน ตอนมีเหตุการณ์ เราไม่แบ่งฝั่งแบ่งฝ่าย หรือเพราะน้ำมาเลยรวม 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน กลายเป็นผืนน้ำผืนเดียวกันทั้งหมด ดูรายการทีวี
แล้วเห็นคำพูดดีๆ เลยขออนุญาตินำมาใช้ เพื่อเป้นกำลังใจให้พี่น้องที่ประสบภัยครั้งนี้  “น้ำมาเพื่อไป แต่น้ำใจไม่สินสุด” ให้มันมา ให้มันมา เราจะสู้กับมันด้วยกัน

                 ครั้งนี้ อาจเป็นการเตือนหรือเป็นการสื่อสารส่งสัญญาณให้เรารู้ว่า โลกที่เราใช้อยู่ ทรัพยากรณ์ที่เราใช้ไป เราหาผลประโยชน์กับโลกมากมาย อาจถึงเวลาที่เราต้องกลับมาดูแล โลกของเราแล้ว