ใครไม่ทำเราทำ(มีน้ำใจบนท้องถนน)

         ใครไม่ทำเราทำ ตอน นี้ที่อยากเขียน คือ มีน้ำใจบนท้องถนน เรื่องของเรื่องคือ ข่าวเร็วๆ นี้ หลายๆข่าว ที่ออกมาขับรถปาดหน้ากัน แล้วภรรยาก็บอกอยากให้เขียนเรื่องนี้บ้าง ที่จริงเลยผมก็เป็นคนหนึงที่ใช้รถใช้ถนน อยู่เป็นประจำ และคิดว่าคงมีอีกหลายๆคนที่เข้ามาอ่านก็คงเป็นคนหนึงที่ใช้รถใช้ถนน ผมเองเมื่อก่อนตอนยังเด็ก(ความคิดเป็นเด็ก) ก็ขับรถคิดว่าตัวเองขับดีแล้ว แต่ถ้ามีคนก่อกวน ก็จะปี๊ดทันที แล้วก็เข่นกัน พอชนะหรือเอาคืนได้ก็ สะใจ สบายใจ คิดว่าตัวเองเก่ง แค่ไม่ขับรถกวนใครก่อนก็เป็นคนดีบนท้องถนนแล้ว แต่พออายุมากขึ้น มีภรรยา แฟนก็จะว่าเวลาขับรถแบบนั้นเมื่อมีคนกวน ก็ลดระดับตัวเองลงมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบ้าง แล้วพอมีลูก ก็ขับรถระวังขึ้น คงโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว(ความคิดเป็นผู้ใหญ่)

                            เมื่อก่อนตัวคนเดียว คิดว่าตัวเองเก่ง ที่จริง แค่ผมโชคดี ที่ยังไม่เจอคนที่เค้าเอาจริง ที่เค้ายิง ที่เค้าโมโหร้ายจริง ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ผมรอดพ้นช่วงนั้นมาได้ ถ้าท่านผู้อ่านพึ่งเข้ามาอ่านเรื่องของผมครั้งแรก ผมขออนุญาต ท้าวความ ใครไม่ทำเราทำ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งอาจเป็นส่วนเล็กๆ แต่ถ้าคุณผู้อ่าน อ่านแล้วเห็นด้วย หรือมีความคิดเห็นคล้ายกัน แนวๆเดียวกัน เรามาช่วยกัน เพื่อสังคมของเรา ถ้าไม่เห็นด้วยก็อ่านฆ่าเวลา หรือไม่ก็ข้ามไปนะครับ อย่างเรื่องการมีน้ำใจบนท้องถนน นี้ ผมขอเอาตัวอย่างที่ผมพบเจอมาเอง ประสบการณ์ของผม วิธีการคิดของผม มาแชร์กับท่านผู้อ่านนะครับ บางทีท่านอาจมีวิธีดีๆ ที่ดีกว่าผม ผมจะได้เอามาลองใช้บ้าง หรือท่านผู้อ่านรายอื่นอาจจะได้อาไร เล็กๆน้อยๆจากการอ่านฆ่าเวลานี้

                    วันหนึ่งนั่งรถไปกับเพื่อนๆ 3-4 คนปรกติ มีรถปาดหน้า ด้วยความไม่คิดยุเพื่อน เป็นเราไม่ยอมแล้ว เพื่อนอ่อนยังงั้น อ่อนยังงี้ ประมาณนี้ แล้วเพื่อนก็บ้ายุ ขับแซงแล้วปาดหน้า พอปาดหน้าเสร็จแล้วอารมณ์เปลี่ยนจากที่เชียร์สนุกสนาน ก็พากันหน้าซีด ไม่ใช่เพราะเค้ามีปืน แต่เค้ามีลูกตัวเล็กๆอยู่ในรถด้วย โชคดีบุญรักษาที่ไม่มีใครเป็นอาไร นี่เป็นเหตุการณ์นึงที่ทำให้ฉุดคิด

                            อีกนึ่งเหตุการณ์คิดว่าตัวเองมาถูกแลน แล้วตัวเองขับถูกกฏแล้ว โดนปาดหน้าจารถที่ผิดกฏเข้ามา ก็มีการแก้แค้นกัน เสร็จแล้วก็มาจอดรถเคียร์กัน คนที่ผิดก็ก็จะมาเอาเรื่อง มาโต้เถียงกันรุนแรงพอสมควร นานพอสมควร แต่พอจับใจความได้ว่ามาจากที่อื่น รีบ ผมก็รีบ คนใช้รถใช้ถนน ใครๆก็รีบทั้งนั้นหละครับส่วนใหญ่หนะ ผมก็ว่าผมถูก แล้วเค้าก็ไป แบบต่างคนต่างอารมณ์เสีย แต่คำพูดที่เค้าพูดก่อนจะขับรถออกไป “อย่าขับแยยนี้อีกนะ มันอันตราย” ตอนแรกก็เถียงเค้าตามหลังว่าตัวเองขับดีนักนี่ มาสอนคนอื่น แต่พอมานั่งคิด และตอนนี้ มีครอบครัว ก็นึกขอบคุณเค้าที่เค้าเตือน เรื่องของผมมีอีกเยอะพอสมควร แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่ที่ต้องการมาเขียนตอนนี้ ที่ต้องการเขียนตอนนี้ คือ ถ้าเรามีน้ำใจบนท้องถนน ก็จะมีข่าวต่างๆ ที่น่าเศร้าพวกนี้ น้อยลง หรือไม่มีเลย

                         ตอนนี้ผมใช้แนวคิดนี้ว่า ถ้ามีคนผิดกฏ แล้วก่อกวนเรา หรือปาดหน้า ก็ใช้วิ๊ต่างๆดังต่อไปนี้  

           1. ก็ให้คิดว่า เค้ารีบกว่าเรา ให้เค้าไปก่อน

           2. เด็กขี่อวดหัดขับรถ (ถ้าขับเก่งจริงไม่ขี่อันตรายแบบนี้หลอก)

            3. แบบติดตลก มันคงปวดฉี่ ปวดอึ จะราดอะดิเลยขับแบบนั้น

          หรือท่านผู้อ่านใช้วิธีใหนก็ลองมาบอกต่อกันบ้างนะครับ

สำหรับตอนนี้ ถ้าเห็นแบบก่อกวนก็จะแอบให้เค้าไปก่อนเลย ให้ไปหาเรื่องกับคนอื่นเอาข้างหน้า นี่ก็เคยเห็นมาแล้ว เราหลบให้แซงไปรีบนัก ไปกี่กิโลเห็นจอดหน้าบุ๊บ อยู่ข้างทาง  แล้วก็คิดว่าถ้า คนเราคิดว่าเก่ง คนขับรถเก่งจริงๆต้องขับขี่ปลอดภัย มีน้ำใจบนท้องถนน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ถ้ารถแรงจริงไปแข่งในสนาม มาร่วมกันมีน้ำใจบนท้องถนนกันนะครับ ให้ทาง ใช้รถใช้ถนนให้ถูกกฏ ทั้งเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่หวงทาง ไม่สาดไฟสูง รถใหญ่มีน้ำใจให้รถเล็ก ให้คนรีบไปก่อน ปลอดภัยไว้ก่อน กันนะครับ ถ้าท่านอ่านถึงตรงนี้ แล้วท่านเป็นคนมีน้ำใจบนท้องถนนอยู่แล้ว ผมขอยกย่องท่านในใจ แต่ถ้าท่านเป็นเหมือนผม หรือหนักกว่าผม เรามาลองปรับความคิดดูดีใหมครับ เพราะเราอาจจะเจอของจริงที่จริงกว่าเรา เข้าสักวัน เพื่อตัวท่านเอง และเพื่อคนที่ท่านรัก คนที่รักท่าน เพื่อเพื่อนร่วมทาง เพราะทุกๆคนเป็นเพื่อนกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
เพื่อบ้านหลังนี้จะได้น่าอยู่ขึ้นไปอีก หรือท่านว่ายังไงครับ…